โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์

โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์ (ตำนานเทพสุริยา) (ญี่ปุ่น: のび太の太陽王伝説; โรมาจิ: Doraemon Nobita no Taiyō’ō densetsu) เป็นโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์การ์ตูนเรื่องยาว มีความยาวทั้งสิ้น 93 นาที ภาพยนตร์ชุดนี้ถือเป็นตอนที่ 21 ของโดราเอมอนฉบับภาพยนตร์ ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 2000 และเข้าฉายในประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2002 (พ.ศ. 2545) โดยใช้ชื่อตอนว่า “โดเรม่อนตำนานสุริยกษัตริย์” (สะกดตามต้นฉบับ) โดราเอม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตำนานสุริยกษัตริย์ เป็นหนึ่งในภาพยนตร์อนิเมะที่ได้รับความนิยมสูงสุดของซีรีส์โดราเอม่อน ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในปี พ.ศ. 2543 (ค.ศ. 2000) และเป็นภาพยนตร์เรื่องที่ 21 ในซีรีส์โดราเอม่อน กำกับโดย Tsutomu Shibayama และมีเค้าโครงเรื่องจากมังงะของ Fujiko F. Fujio

“โดราเอมอน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์” (Doraemon: Nobita and the Legend of the Sun King) เป็นภาพยนตร์อนิเมชันญี่ปุ่นที่ออกฉายในปี 2000 ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์โดราเอมอน และเป็นภาพยนตร์ตอนที่ 21 ของซีรีส์นี้ เนื้อเรื่องเล่าถึงการผจญภัยของโดราเอมอนและเพื่อนๆ ในดินแดนแห่งสุริยกษัตริย์ พวกเขาต้องเผชิญกับศัตรูและช่วยเหลือราชาและประชาชนจากอันตรายเรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโนบิตะได้รับสร้อยคอปริศนาจากโลกคู่ขนาน จากนั้นเขาและเพื่อนๆ ได้เดินทางไปยังโลกนั้นและพบกับผู้อยู่อาศัยในดินแดนสุริยกษัตริย์ พวกเขาต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งแผนการร้ายของศัตรูและกอบกู้ดินแดนจากการถูกทำลายภาพยนตร์เรื่องนี้มีเนื้อหาที่สนุกสนานและเต็มไปด้วยการผจญภัย นอกจากนี้ยังสอดแทรกข้อคิดเกี่ยวกับมิตรภาพ ความกล้าหาญ และการทำงานร่วมกัน

เนื้อเรื่องอย่างละเอียด โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์

พบเจ้าชายทีโอ

โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์ เริ่มเรื่องด้วยการเกริ่นเรื่องราวของอาณาจักรแห่งหนึ่งในป่าลึก ณ ที่หนึ่งในป่า ได้มีผู้หนึ่งกำลังหลบหนีการตามล่าของกองทัพทหาร แต่สุดท้ายเขาผู้นั้นก็หนีไปได้ เขาผู้นั้นก็คือเลดีน่า แม่มดหมอผีจากอาณาจักรมายานะ ที่ได้หลบหนีไปยังวิหารแห่งความมืด เพื่อทำแผนการบางอย่าง และตนได้สาปอาณาจักรมายานะให้ตกอยู่ในวิกฤต และสาปให้องค์ราชินี แม่ของเจ้าชายล้มป่วยลง

ตัดมาที่พวกโนบิตะและเพื่อน ๆ กำลังซ้อมแสดงละครเรื่องสโนว์ไวท์กันอยู่ แต่ก็ต้องล้มไม่เป็นท่าเพราะทุกๆคนทะเลาะกันเรื่องบทไม่ลงตัว จนโดราเอมอนต้องหยุดพักกะทันหัน แต่ซึเนโอะมีติดเรียนพิเศษพอดี จึงต้องขอตัวกลับก่อน ขณะนั้นไจแอนท์ก็ได้ขอยืม เวทีสารพัดนึก ของวิเศษที่สามารถใช้สร้างเวทีละครอะไรก็ได้ไป แต่โดราเอมอนก็คัดค้านไม่ให้ยืม จนโดนไจแอนท์ใช้เครื่องเปิดภาพกองทัพหนูออกมา จนโดราเอมอนตกใจเป็นลมไป ไจแอนท์จึงใช้โอกาสนี้รีบเอาไปทันที

ตัดมาที่บ้านไจแอนท์ เขากำลังลองใช้เครื่องอยู่ และได้ติดตั้งฉากในห้องให้กลายเป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ และเริ่มร้องเพลง ส่วนฝั่งทางบ้านโนบิตะ โดราเอมอนกำลังหาวิธีนำเครื่องมือกลับมา ด้วยการใช้ ผ้าคลุมสับเปลี่ยน ของที่สามารถสับเปลี่ยนของจากที่ไหนก็ได้ เพียงแค่พูดชื่อผู้ใช้ และสิ่งของ โดราเอมอนจึงเริ่มเรียกชื่อไจแอนท์ แต่โนบิตะดันพูดว่า “เอาคืนมา” เร็วเกินไป จึงทำให้เป็นการเรียกไจแอนท์กลับมาที่บ้านโนบิตะแทน ทำให้ทุก ๆ คนต้องทนฟังเพลงที่ไม่ได้เรื่องของไจแอนท์เต็มสองหู

ไจแอนท์โมโหหนักมาก จนตัวเขากลับบ้านไป แต่โนบิตะไม่ยอมแพ้จนโดราเอมอนต้องนำ ช่องกาลเวลาและที่ดักกาลเวลา ออกมา และเปลี่ยนช่วงเวลาเป็นช่วงกลางคืนในตอนที่ไจแอนท์หลับอยู่ และให้โนบิตะใช้ไม้กาวยืดเอาเครื่องเวทีสารพัดนึกกลับคืนมา แต่ก็ต้องพลาดเพราะไม้กาวดันไปติดกับหัวไจแอนท์ ทำให้ไจแอนท์ตื่น และพยายามจะดึงโนบิตะเข้ามา ตอนนั้นเองก็เกิดการช็อตของเครื่องดักกาลเวลา ทำให้เครื่องเกิดระเบิด และห้วงเวลาของไจแอนท์และบ้านโนบิตะก็ขาดหายไป ระหว่างนั้นแม่โนบิตะก็ได้ยินเสียงระเบิด จึงถามว่าทำอะไรกัน ชิซุกะได้ยินดังนั้นจึงขอตัวกลับก่อน พอลงมาข้างล่าง แม่โนบิตะก็บ่นให้โนบิตะและโดราเอมอนไปอาบน้ำ เพราะเนื้อตัวมอมแมมจากการระเบิดของช่องกาลเวลานั่นเอง

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังอาบน้ำ จู่ๆก็มีสัตว์รูปร่างประหลาดโผล่ออกมาจากช่องกาลเวลา และค้นห้องจนเละเทะ พอทั้งสองขึ้นห้องมาก็ต้องตกใจ และโนบิตะก็ไปเห็นหางลึกลับที่โผล่ออกมาจากลิ้นชัก พอจับดู สัตว์ตัวนั้นจึงตกใจ แล้วรีบกลับเข้าไปยังเครื่องช่องเวลาทันที มันทำให้โนบิตะตกใจมาก เพราะเครื่องนี้พาไปโผล่ที่กลางป่าลึก จนทำให้โดราเอมอนต้องรีบเข้ามาดู ระหว่างนั้นโนบิตะก็เดินสำรวจอยู่พักหนึ่ง แต่ก็ต้องตกใจเพราะดันเจอกับคนแต่งตัวประหลาด สวมหน้ากาก และถือหอกหินไล่ตามเขาอยู่ ทำให้โนบิตะต้องหนีเอาชีวิตรอด โดราเอมอนเห็นท่าไม่ดีจึงใช้ วุ้นแปลภาษา เพื่อจะได้สื่อสารกันรู้เรื่อง แต่ดูเหมือนจะไม่ง่ายแบบนั้น เพราะอีกฝ่ายไม่ฟังอะไรเลย จนโนบิตะจนมุม อีกฝ่ายก็หยุดชะงักไป และถอดหน้ากากออก และบุคคลที่อยู่ภายใต้หน้ากากหน้าเหมือนกับโนบิตะอย่างกับฝาแฝด และคนที่หน้าเหมือนโนบิตะสงสัยว่าโนบิตะเป็นสมุนของเลดีน่า ก่อนจะใช้หอกทิ่มไป แต่ก็ได้โดราเอมอนใช้ ไม้เท้ามายากล ช่วยไว้ก่อน จึงทำให้หอกกลายเป็นช่อดอกไม้แทน คนที่หน้าเหมือนโนบิตะจึงพยายามจะจัดการ และทั้งสองก็ได้กลิ้งไปจนเกือบตกหน้าผา แต่ก็ได้โนบิตะช่วยจับไว้ได้ แต่สุดท้ายก็ต้องตกลงไปในบ่อโคลน โดราเอมอนจึงรีบเอาขึ้นมา แต่ก็แยกไม่ออกเพราะทั้งสองหน้าเหมือนกันมาก สัตว์รูปร่างประหลาดเข้ามาหาทั้งสองคน ก่อนจะลังเลว่าคนไหนคือตัวจริง จึงได้เลียไปบนใบหน้าของโนบิตะ

และแล้วการสื่อสารกับคนประหลาดก็เข้าใจมากขึ้น แท้ที่จริงแล้วเขาคือเจ้าชาย มีนามว่า ทีโอ เป็นผู้ปกครองนครมายานะ อาณาจักรแห่งดวงอาทิตย์ และสัตว์รูปร่างประหลาดก็คือสัตว์เลี้ยงของเขา ชื่อโพโพรุ โดยทีโอเล่าว่าอาณาจักของตนอยู่ในวิกฤตเพราะคำสาปของเลดีน่า แต่ตอนนั้นจึงได้ถามทั้งสองคนว่ามาจากที่ไหน และได้รู้ว่าพวกเขามาจากญี่ปุ่น ผ่านโพรงต้นไม้ จึงได้สนใจและเข้าไปดู แต่โนบิตะขออยู่ก่อน เพื่อจะขอผลสอบและหนังสือการ์ตูนที่โพโพรุเอาไปคืนมา โนบิตะจึงสวมรอยเป็นเจ้าชาย และบังคับให้บอกที่ซ่อน จนไปเจอกับรังลับของโพโพรุ แต่ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกองทัพทหารกำลังตามหาเจ้าชายอยู่ โนบิตะจึงพยายามหลบเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด แต่โพโพรุที่คิดว่านี่คือเจ้าชายตัวจริง จึงได้บอกพวกทหารไป สุดท้ายโนบิตะจึงถูกเจอตัวและถูกพาไปยังพระราชวังทันที

สลับเปลี่ยนเจ้าชาย

ขณะเดียวกันที่บ้านโนบิตะ เจ้าชายทีโอก็ได้สำรวจภายในตัวบ้าน และก็ต้องตกใจกับเทคโนโลยีในสมัยนั้น เพราะตนไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะสำรวจก็เกิดหิวขึ้นมา โดราเอมอนจึงต้มราเม็งถ้วยให้กิน ถัดมาทางฝั่งโนบิตะ ก็ถูกเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเจ้าชายเสียแล้ว จึงได้ใช้ชีวิตในฐานะเจ้าชายทีโอที่อาณาจักรมายานะทันที แต่ไม่ทันไรโดราเอมอนก็ใช้ ประตูไปที่ไหนก็ได้ เปิดมาหาโนบิตะ เจ้าชายจึงได้พูดคุยกับโนบิตะ เพื่อขอเปลี่ยนตัวกัน เพื่อจะได้เรียนรู้เรื่องราวของญี่ปุ่น และใช้จัดการกับเลดีน่าให้มากขึ้น โนบิตะจึงยอมตกลง เมื่อทั้งสองกลับมาที่บ้านคุณแม่สั่งให้เก็บกวาดห้องที่รกให้เสร็จทันที

วันต่อมา ทั้งสองได้เปลี่ยนตัวกันตามที่สัญญา โดราเอมอนได้ให้กระเป๋าสำรองให้กับโนบิตะเป็นการฉุกเฉิน ฝ่ายโนบิตะจึงได้เดินออกสำรวจเมือง จนได้ไปถึงลานฝึก เลยถูก ครูอิชูมัน ครูฝึกของที่นั่น เรียกตัวไปฝึกซ้อม แต่ก็ต้องล้มไม่เป็นท่าเพราะโนบิตะไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน จนโดนฟาดหัวสลบไป ครูอิชูมันจึงเรียก คุคุ ลูกสาวของตน ให้ช่วยปฐมพยาบาลเจ้าชาย ถัดมาทางฝ่ายเจ้าชาย ก็ได้พยายามรื้อห้องอีกครั้ง ตอนนั้นเองชิซุกะจังก็มาหาโนบิตะที่บ้าน เพื่อนำหนังสืออ้างอิงเทพนิยายในการแสดงครั้งนี้ แต่เจ้าชายโยนหนังสือกลับไป แล้วบอกให้ผู้หญิงไร้ค่ากลับไป ทำให้ชิซุกะจังเสียใจเป็นอย่างมาก และรีบออกจากบ้านไปทันที เจ้าชายไม่สนใจ และรีบออกเดินทางไปข้างนอก ระหว่างเดินทางก็ได้ยินเสียงประหลาด จึงแนบหัวลงกับพื้นแล้วฟัง จึงต้องตกใจเพราะรถยนต์ขับผ่านมา แต่เจ้าชายคิดว่าเป็นสัตว์เหล็กยักษ์ โดราเอมอนเห็นท่าไม่ดีจึงต้องรีบใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่อุ้มเจ้าชายขึ้นฟ้า แต่เจ้าชายตกใจเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน จึงดิ้นพล่านและตกลงไปที่บ้านของคุณครูทันที

ฝั่งโนบิตะ ก็ตื่นขึ้นจากการสลบ ซึ่งได้คุคุดูแลอยู่ข้าง ๆ โนบิตะจึงแสดงท่าทีแข็งแรงเพื่อให้เธอดีใจ และคุคุก็ได้มอบสร้อยที่เธอทำขึ้นเองเป็นของขวัญให้เจ้าชาย โนบิตะดีใจมากจึงรีบนำมาสวมทันที ทำให้คุคุรู้สึกแปลกใจเพราะเจ้าชายไม่เคยมีนิสัยแบบนี้มาก่อน โนบิตะตกใจจึงต้องรีบแก้ต่าง โนบิตะบอกคุคุว่าอยากจะออกไปเดินเล่นหน่อย ทั้งสองคนจึงได้ออกเดินเล่นไปในอาณาจักร และได้เจอกับกลุ่มเด็กๆกำลังเล่นเชือกทำนายอยู่ โนบิตะจึงอยากเข้าไปเล่นด้วย แต่เด็ก ๆ ตกใจกลัว ขณะนั้นก็หยิบเชือกขึ้นมาเล่นพันด้าย จนทำให้เด็ก ๆ และคุคุรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก โนบิตะจึงทำเป็นรูปต่าง ๆ จนถึงรูปหอคอยโตเกียว ทำให้ทุก ๆ คนรู้สึกสงสัยเพราะไม่รู้จักนั่นเอง ระหว่างนั้นเองฝั่งเจ้าชายที่กำลังกลับบ้านมา ก็ได้เจอกับแม่ของโนบิตะที่กำลังดุอยู่ จนเจ้าชายเอ่ยปากไปว่า “มันเป็นใคร” ทำให้แม่โนบิตะโกรธมาก จึงหยิกหูแล้วบังคับให้ไปถอนหญ้า จนทำให้เจ้าชายกลัวเป็นอย่างมาก ส่วนทางฝั่งโนบิตะก็ได้สังเกตว่าที่อาณาจักรนี้แห้งแล้งมาก คุคุบอกว่าเป็นเพราะคำสาปของเลดิน่า แต่โนบิตะแก้ต่างให้ว่า คงไม่ใช่แบบนั้น คุคุจึงเสริมว่าแล้วทำไมถึงต้องทำการบูชายัญ ทำให้โนบิตะตกใจแล้วรีบตามไปดู ก็พบว่าคนในอาณาจักรกำลังทำการบูชายัญให้กับน้ำตกเซโนเต้ เพื่อขอฝน และคลายคำสาปของเลดีน่า แต่โนบิตะคัดค้าน แล้วรีบหยิบ กล่องสร้างสภาพอากาศ ไปใช้ในป่า แล้วทำให้ฝนตกลงมาทันที ทำให้ต้องยกเลิกการบูชายัญไป ระหว่างนั้นเลดีน่าที่ใช้นกแร้งจับตามองอยู่ ก็รู้สึกทึ่งในพลังของเจ้าชาย ก่อนจะเริ่มเตรียมการแผนการต่อไป

ตกเย็นทั้งสองก็สลับตัวกลับเป็นเหมือนเดิม และคุคุก็ได้เข้ามาคุยกับเจ้าชาย และบอกว่าทรงมีเมตตามากในวันนี้ เจ้าชายที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรจึงได้บอกให้คุคุออกไป คืนนั้นเจ้าชายเรียกทาคาโอะกับโมกะมาซ้อมฟันดาบ ทั้งสองแกล้งยอมแพ้ให้เจ้าชายเพื่อให้เขาสบายใจ และนินทาว่าคนแบบเจ้าชายที่เอาแต่ใจตัวเองไม่มีทางเป็นกษัตริย์ที่ดีได้ จากนั้นเจ้าชายไปเยี่ยมอาการของท่านแม่และขอคำปรึกษาว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะได้เป็นกษัตริย์ที่ดี เช้าวันต่อมาทั้งสองสลับตัวกันต่อ ระหว่างที่เจ้าชายสำรวจในเมืองต่อ ก็ได้เจอกับไจแอนท์และซึเนโอะที่จะมาเอาคืนเรื่องเมื่อคืน (ที่ใช้ไม้กาวดัก) แต่ก็โดนเจ้าชายเอาคืนจนทั้งสองอึ้งไป และไปจัดการกันต่อที่ลานว่าง และทำการต่อสู้กันอย่างดุเดือด จนชิซุกะจังมาเห็น และตะโกนบอกว่า เกลียดโนบิตะที่มีนิสัยแบบนี้ที่สุด จนโดราเอมอนต้องยอมบอกความจริงไป ว่านี่ไม่ใช่โนบิตะ ส่วนฝ่ายโนบิตะเองก็ถูกบังคับให้ไปฝึกสู้ที่ลานต่อสู้ของเมือง จนน่วมเละไม่เป็นท่า เพราะเขาไม่ใช่เจ้าชาย โนบิตะจึงรีบหนีแล้วกลับเข้ามาในโพรงต้นไม้ทันที และได้เล่าเรื่องของอาณาจักรมายานะให้ทุกๆคนฟัง ทุกๆคนสนใจอยากจะเข้าไปเที่ยวบ้าง โดราเอมอนจึงใช้ กล้องเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนชุดให้เข้ากับอาณาจักร ส่วนโนบิตะก็ต้องเปลี่ยนเป็นชุดผู้หญิง เพราะหากมีเจ้าชายสองคนจะแย่เอา

เที่ยวหนึ่งวันที่มายานะ

เมื่อมาถึงเมืองแล้วเจ้าชายได้วานให้คุคุช่วยพาเพื่อน ๆ ชมอาณาจักร ขณะชมไจแอนท์ก็ไปสะดุดกับลานฝึก และขอฝึกต่อสู้กับครูอิชูมัน ช่วยสอนเขาหน่อย และไจแอนท์ก็แยกทางไปฝึกทันที

ต่อมาที่แม่น้ำ ชิซุกะจังได้เล่าเรื่องราวของสโนวไวท์ให้คุคุฟัง ส่วนซึเนโอะก็ปาก้อนหินเล่นในแม่น้ำ ตอนนั้นซึเนโอะก็เห็นเงาของจระเข้ยักษ์ปรากฎในน้ำ แต่ทุก ๆ คนก็บอกว่าคงจะตาฝาดไปเอง ระหว่างนั้นเองเจ้าชายก็ไปบอกคนในกองฝึกว่า จะทำการซาคาดี ทุก ๆ คนในเมืองจึงตกใจ และรีบแห่กันไปดู รวมทั้งโนบิตะและเพื่อน ๆ ซึ่งก็ได้รู้ว่า ซาคาดีคือกีฬาประเภทหนึ่ง เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะ จะสามารถสั่งการอะไรให้กับผู้แพ้ได้

เมื่อเข้าชมการแข่งขัน ฝ่ายเจ้าชายเองก็มีแค่คนเดียว ส่วนฝ่ายของ ทาคาโอะ และ โมกะ มีกันสองคน จนทำให้ทุก ๆ คนกังวลว่า เจ้าชายคนเดียวจะสู้ไม่ไหว ขณะแข่งขัน ดูเหมือนว่าเจ้าชายจะเริ่มเสียท่าแล้ว จนโนบิตะลงไปเสนอตัวว่าจะแข่งทีมเดียวกับเจ้าชาย ตอนแรกเจ้าชายก็คัดค้าน แต่พอได้ฟังที่โนบิตะพูด ก็ยอมตกลง และทำการแข่งขันกันใหม่ จนแข่งขันเสร็จ ผลปรากฎว่าฝ่ายเจ้าชายเป็นฝ่ายชนะ ต่อมาจึงถึงเวลาออกคำสั่งกับผู้แพ้ เจ้าชายจึงได้ให้โนบิตะเป็นคนสั่งแทน โนบิตะจึงบอกให้ปล่อยพวกเขาไป เกมนี้ให้เล่นกันสนุก ๆ ก็พอ ทำให้เจ้าชายตกใจเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมรับเพราะเจ้าชายมอบหมายให้โนบิตะสั่งแล้ว เจ้าชายจึงให้อภัยทั้งสอง ทำให้ทุก ๆ คนรู้สึกซาบซึ้งในความมีเมตตาของโนบิตะเป็นอย่างมาก

ตกดึก คุคุมาหาเจ้าชาย และบอกว่าตนได้เล่นเชือกพันด้ายเป็นรูปหอคอยโตเกียวได้แล้ว แต่กลับถูกเจ้าชายปฎิเสธและไล่กลับไป ทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมาก และวิ่งหนีไปยังริมแม่น้ำทันที ต่อมาคุคุถูกจระเข้ยักษ์ (ของจ้าวแห่งสัตว์ป่า) ลูกสมุนของเลดีน่าจับตัวไป เจ้าชายได้ยินเสียงร้องของคุคุจึงรีบตามมา และก็ต้องพบว่าเลดิน่าได้ลักพาตัวคุคุไปแล้ว และบอกให้เจ้าชายมายังวิหารแห่งความมืดคนเดียว เจ้าชายจึงตัดสินใจไป แต่ขณะนั้น เจ้าชายสังเกตุเห็น ทาคาโอะ และโมกะแอบฟังอยู่ จึงบอกพวกเขาทั้งสองว่า ตนจะไปยังวิหารแห่งความมืดคนเดียว และห้ามบอกใครเด็ดขาด

เดินทางไปวิหารแห่งความมืด

เช้ามา โนบิตะและเพื่อนๆได้เดินทางมาถึง ครูฝึกอิชูมันก็อยู่ในวังด้วย ในขณะนั้นเองคาคาโอะและโมกะก็ได้มาเจอกับโนบิตะทันที และตกใจคิดว่าเป็นเจ้าชาย เพราะโนบิตะลืมใส่วิก โดยทั้งคู่ได้ถามว่าเจ้าชายกลับมาอย่างปลอดภัย และช่วยคุคุได้ใช่ไหม ซึ่งทำให้ครูอิชูมันตกใจมาก และถามโนบิตะว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุคุ แต่โนบิตะก็ปฎิเสธไป เพราะตนไม่ใช่เจ้าชาย

และแล้วทุกๆคนก็ได้รู้ว่า เจ้าชายออกเดินทางไปยังวิหารแห่งความมืด เพื่อช่วยเหลือคุคุที่ถูกพาตัวไป และแล้วทุกๆคนก็ออกเดินทาง พร้อมกับครูอิชูมัน แต่ระหว่างเดินทาง คอปเตอร์ไม้ไผ่ถูกฟ้าผ่าทำให้แบตเตอรีใกล้จะหมด จึงต้องลงกลางคัน ส่วนทางเจ้าชาย ขณะกำลังเดินทางผ่านป่าโครงกระดูก ก็โดนทรายดูด โพโพรุได้ยินเสียงร้องของเจ้าชาย จึงรีบวิ่งไปหา และทุกๆคนก็ได้ช่วยเจ้าชายสำเร็จ แต่เจ้าชายถามว่าตามมาทำไม และบอกให้ทุก ๆ คนกลับไป แต่โนบิตะบอกว่าเพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน แและเป็นธรรมดาที่ต้องช่วยเหลือกัน ทำให้เจ้าชายเริ่มเข้าใจมากขึ้น และยอมรับในตัวทุก ๆ คน รวมถึงยอมรับให้ทุกคนเรียกชื่อของเขา

ระหว่างเดินทางผ่านหน้าผาสูงชัน ก็ต้องพบกับทางตันเพราะไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากปีนผาขึ้นไป แต่การปีนผานั้นทำไม่ได้เพราะจู่ ๆ ก็มีฝูงงูสีขาวโผล่ออกมา (ในฉบับมังงะเป็นงูที่มีลาย) ทำให้โดราเอมอนต้องยอมหยิบคอปเตอร์ไม้ไผ่ออกมา แล้วรีบบินขึ้นไป ส่วนไจแอนท์ก็เป็นคนอุ้มครูอิชูมันขึ้นมา แต่ครูอิชูมันพลาดท่าตกลงไปในหน้าผาทันที ทำให้ไจแอนท์เสียใจเป็นอย่างมาก แต่เจ้าชายพูดกล่อมว่า ครูอิชูมันจะต้องไม่เป็นไรแน่นอน ทำให้การเดินทางดำเนินต่อไป

วันต่อมาหลังจากพักผ่อนในยามค่ำคืนจบ ทุก ๆ คนจึงมุ่งหน้าไปยังแม่น้ำ โดยโดราเอมอนได้ใช้ โรลเลอร์สเก็ตทุกที่ทุกวัย วิ่งผ่านแม่น้ำทะลุทะเลสาบไป แต่ระหว่างนั้นก็ถูกบุกจู่โจมโดยฝูงนกยักษ์ซึ่งเป็นฝีมือของเลดีน่าและจระเข้ยักษ์ โดราเอมอนจึงรีบหยิบ พัดพระพราย พัดใส่ฝูงนกจนปลิวหายไป และหยิบ หมากฝรั่งซูเปอร์บอลลูน โยนเข้าปากจระเข้ยักษ์ ทำให้ตัวโป่งพองเหมือนบอลลูน และลอยขึ้นฟ้าไป ส่วนตัวเจ้าชายได้ถูกนกยักษ์พาตัวไปยังอีกฝั่งของแม่น้ำ และพลัดหลงกับพวกโนบิตะไป แต่เขาใช้หอกของเขาทำให้หลุดจากกรงเล็บของนกแร้งทำให้ตกลงไปกลางป่าใกล้ ๆ วิหารและได้รับบาดเจ็บ

พิธีกรรมของเลดีน่า

ทุกๆคนจึงรีบออกเดินทางเพื่อช่วยตามหาเจ้าชาย และตามหาวิหารในเวลาเดียวกัน และแล้วในที่สุด พวกเขาพลัดหลงกับโพโพรุด้วยและพบกับวิหารแห่งความมืด ระหว่างนั้นเลดีน่าจึงได้ส่งลูกสมุนของเธอ (จ้าวแห้งโอสถ) ใช้ควันกลิ่นหอมทำให้พวกโนบิตะมองเห็นภาพลวงตา (และยานี่ทำให้เกิดความเจ็บปวดด้วยเช่นกันหากถูกภาพลวงตาเหยียบ) แต่โดราเอมอนรู้ทันจึงให้ทุกคนอุดจมูกและตอบโต้โดยใช้ วิทยุบังคับอะไรก็ได้ ติดกับเศษหินพร้อมกับขวดพริกไทย ไปโปรยใส่ลูกสมุนจนพ่ายแพ้ไป

ส่วนทางเจ้าชายเอง ก็ได้โพโพรุช่วยไว้ แล้วออกเดินทางมายังวิหารแห่งความมืดต่อ กลับมาที่พวกโนบิตะ ไจแอนท์ต้องต่อสู้กับลูกสมุน (เจ้าแห่งหอก/โอโทรุ) อย่างดุเดือด และเลดีน่าได้ใช้เวทมนตร์เผากระเป๋า 4 มิติของโดราเอมอนด้วย! โนบิตะเลยเสนอตัวขึ้นไป เพื่อจะแลกตัวเองกับคุคุ เลดิน่าเชื่อใจสนิท แต่ก็ต้องตกหลุมพรางโนบิตะ เพราะว่าโนบิตะได้ใช้กระเป๋าสำรองหยิบ ผ้าคลุมสับเปลี่ยนออกมา แล้วเปลี่ยนคุคุให้กลายเป็นก้อนหินยักษ์ทันที เลดิน่ารู้สึกเจ็บใจ จึงพยายามจะจัดการเจ้าชาย แต่ระหว่างนั้นเจ้าชายตัวจริง

และชาวเมืองมายานะก็พากันโห่กรูเข้ามา ทำให้เลดิน่าสับสนว่าตัวไหนคือตัวจริง แต่นางไม่สนใจและจะสับเปลี่ยนร่างกับโนบิตะในช่วงสุริยุปราคาทันที เมื่อดวงอาทิตย์กลับมาสว่างก็ทำให้มีแสงสะท้อนจากสร้อยคอที่โนบิตะใส่อยู่ทำให้เลดีน่าแสบตา โนบิตะจึงกัดเข้าที่มือของนางและส่งกระเป๋าสำรองให้โดราเอมอนแล้วหนี แต่ก็ถูกเลดีน่าดักไว้ ระหว่างที่นางใช้เวทมนตร์ฆ่าโนบิตะและเจ้าชาย ซึเนะโอะใช้วิทยุบังคับพริกไทยผลักหัวกะโกลกสำหรับใช้เวทมนตร์ของเลดีน่าให้กระเด็น โนบิตะและเจ้าชายเตะมันใส่ร่างของเธอทำ

ให้ตกลงมาที่พื้นข้างล่าง และได้เผยร่างจริงขิงเธอซึ่งเป็นหญิงที่แก่มาก ๆ ค่อย ๆ เดินไปกดปุ่มที่แท่นทำลายวิหาร ทำให้มีน้ำพุ่งออกมาจากวิหาร และวิหารจึงถล่มลงมา โนบิตะและเจ้าชายตกอยู่ในอันตราย โดราเอมอนจึงใช้ คิบิดังโงะตราโมโมทาโร่ นำไปให้นกแร้งกิน แล้วช่วยเหลือพวกโนบิตะได้ทันเวลา

ต่อมาที่อาณาจักร ราชินี หรือท่านแม่ของเจ้าชาย ได้กลับมาหายดีเป็นปลิดทิ้ง และเจ้าชายก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรดวงอาทิตย์ทันที ส่วนพวกโนบิตะและเพื่อน ๆ ก็จะต้องกลับไปยังญี่ปุ่นแล้ว เพราะช่องกาลเวลากำลังจะหายไป โนบิตะจึงบอกลาผ่านโพรงต้นไม้เป็นครั้งสุดท้าย แล้วเข้าโพรงจากไป โพโพรุพยายามจะเข้าไปด้วยแต่ก็ถูกไฟช็อคออกมา ต่อมาโนบิตะและเพื่อน ๆ มาซ้อมละครสโนว์ไวท์กันต่อและแย่งกันเป็นเจ้าชายเหมือนเดิม เมื่อตกลงกันได้แล้วทุกคนก็ได้สลับบทบาทกัน เว้นแต่โนบิตะที่ยังเล่นเป็นต้นไม้เหมือนเดิม

ตัวละคร (เรียงลำดับการปรากฏตัว)

  • เลดีน่า
  • ทีโอ และทหารของมายานะ (ปรากฏตัวพร้อมกัน)
  • คอนโด้ (นกแร้งของเลดีน่า)
  • ราชินีมายานะ
  • โฮเนคาว่า ซึเนโอะ
  • มินาโมโตะ ชิซุกะ
  • โดราเอมอน และ มินิโดร่า (ปรากฏตัวพร้อมกัน)
  • โกดะ ทาเคชิ
  • โนบิ โนบิตะ
  • โนบิ ทามาโกะ
  • โพโพรุ
  • ทีโอ
  • แม่บ้านของทีโอ
  • อิชูมัน
  • คุคุ
  • คุณครู
  • ประชาชนชาวมายานะ
  • ผู้ทำพิธีบูชายัญ
  • จ้าวแห่งสัตว์ป่า (ยะฟู) , จ้าวแหงโอสถ และ จ้าวแห่งหอก (โอโทรุ) (ปรากฏตัวพร้อมกัน)
  • ทาคาโอะ และ โมกะ (ปรากฏตัวพร้อมกัน)
  • จระเข้ของเจ้าแห่งสัตว์ป่า
  • สัตว์ประหลาดภาพลวงตาของจ้าวแห่งโอสถ

ของวิเศษที่ใช้ (เรียงลำดับการปรากฏตัว)

  • มินิโดร่า
  • เวทีสารพัดนึก
  • ผ้าคลุมสับเปลี่ยน
  • ช่องกาลเวลาและที่ดักกาลเวลา
  • วุ้นแปลภาษา
  • ไม้เท้ามายากล
  • เครื่องเป่าแห้งอัตโนมัติ
  • ประตูไปที่ไหนก็ได้ (เฉพาะฉบับภาพยนตร์)
  • กล่องสร้างสภาพอากาศ
  • กล้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
  • คอปเตอร์ไม้ไผ่
  • แคมปิ้งแคปซูล
  • โรลเลอร์สเก็ตทุกที่ทุกวัย
  • พัดพระพาย
  • หมากฝรั่งซูเปอร์บอลลูน
  • ปืนใหญ่อัดอากาศ
  • วิทยุบังคับอะไรก็ได้
  • คิบิดังโงะตราโมโมทาโร่ โดเรม่อน เดอะมูฟวี่ ตอน ตํานานสุริยกษัตริย์

บทความที่เกี่ยวข้อง